แรงบันดาลใจจากเรื่องจริง สู้ชีวิต โดนหักหลัง และการลุกขึ้นมาท้าชนยักษ์ใหญ่!
ถ้าใครเลื่อนฟีดในช่วงนี้แล้วไม่เจอใครพูดถึง “สงครามส่งด่วน” ก็ต้องเช็กหน่อยละว่าใช้ Netflix อยู่รึเปล่า เพราะซีรีส์ไทยเรื่องนี้มาแรงแซงทุกกระแส ขึ้นอันดับ 1 ในไทยแบบไม่มีเบรก! ซีรีส์ที่สร้างแรงบันดาลใจจากเรื่องจริง ผสมดราม่าเข้มข้น + ธุรกิจมันส์ ๆ + การหักหลังสุดเจ็บปวด และการลุกขึ้นสู้แบบไม่ยอมแพ้!
ใครชอบแนว “ดราม่าธุรกิจ” หรือ “เส้นทางสตาร์ทอัพสุดระห่ำ” เรื่องนี้ตอบโจทย์แน่นอน และที่สำคัญคือเรื่องนี้ได้แรงบันดาลใจจากเรื่องจริงด้วย! ไม่ใช่แค่แต่งขึ้นมาเฉย ๆ ซึ่งยิ่งทำให้มันรู้สึกอินมากขึ้นไปอีก
เรื่องย่อ “สงครามส่งด่วน” แบบไม่กั๊ก (แอบ สปอยหนัง นะจ๊ะ)
พระเอกของเรา “สันติ” (รับบทโดย ไอซ์ซึ ณัฐรัตน์) เป็นเด็กดอยจากดอยวาวี จังหวัดเชียงราย ที่มีชีวิตยากลำบากสุด ๆ ฐานะยากจนแต่มีความฝันใหญ่โต สันติอยากเปลี่ยนชีวิตตัวเองและครอบครัวให้ดีขึ้น เลยตัดสินใจลงดอยมากรุงเทพฯ เพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่
จุดเด่นของสันติคือ “ภาษาจีน” ที่แม่เคยสอนให้ตั้งแต่เด็ก เพราะงั้นพอเข้ากรุงมา เขาเริ่มมองเห็นโอกาสทางธุรกิจจากช่องว่างของการขนส่งพัสดุระหว่างไทย-จีน ที่ยังไม่มีใครทำให้มันเวิร์กจริง ๆ จัง ๆ
สันติเลยเริ่มต้นด้วยการเอาไอเดียนี้ไปเสนอให้เจ้าสัว “คณิน” (รับบทโดย เอก ธเนศ) นักธุรกิจระดับบิ๊กแห่งกลุ่ม “คณินกรุ๊ป” หวังจะได้การสนับสนุนด้านเงินทุน
แต่แล้วเรื่องไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น… ไอเดียที่เขาเสนอถูกขโมยไป! ถูกเอาไปให้ “เคน” (รับบทโดย พีช พชร) ลูกชายเจ้าสัวเป็นคนทำแทน! โคตรเจ็บ! เจ็บแบบปาดหน้าเค้กแล้วขโมยไปหมดทั้งก้อน!
ลุกขึ้นสู้ด้วยมือเปล่า พร้อมแก๊งเพื่อนสุดจี๊ด!
แน่นอนว่าสันติไม่ยอมแพ้ เขาตัดสินใจรวมทีมกับเพื่อนใหม่ “เสี่ยวหยู” (รับบทโดย เจนเย่ เมธิกา) นักการเงินสาวสุดคม และ “รุ่ยเจี๋ย” (ดร.พลัง โลกศิลป์) โปรแกรมเมอร์สายเย็นชาที่เก่งเกินมนุษย์
ทั้งสามร่วมกันก่อตั้งบริษัทขนส่งพัสดุด่วน “ธันเดอร์ เอ็กซ์เพรส” และเริ่มทำธุรกิจแบบกัดไม่ปล่อย ลุยเต็มที่ ไม่ถอยแม้ต้องเจอยักษ์ใหญ่หน้าไหนก็ตาม
แล้วก็ใช่จ้า การต่อสู้มันไม่ได้ง่ายดายเหมือนใส่พัสดุในกล่อง ซีรีส์พาเราไปเห็นโลกของสตาร์ทอัพที่เต็มไปด้วยการแย่งชิง แข่งกันทุกทาง ตั้งแต่เรื่องเงินทุน การตลาด ระบบไอที ยันดราม่าภายในทีมเองก็มีให้ลุ้นตลอด
ความรู้สึกที่ได้ดูเรื่องนี้คล้ายกับตอนลุ้นหวยไวเลยแหละ ฮ่า ๆ เพราะทุกฉากคือเร็ว แรง ไม่หยุดลุ้น เหมือนเวลาแทงแล้วรอลุ้นผลแบบวินาทีต่อวินาทีจริง ๆ
ความอินที่มากกว่า เพราะมันมีพื้นฐานมาจากเรื่องจริง!
สิ่งที่ทำให้ “สงครามส่งด่วน” โดดเด่นกว่าซีรีส์ดราม่าทั่วไปก็คือ มันดัดแปลงจากเรื่องจริงในวงการธุรกิจขนส่งไทย! บางจุดในเรื่องอาจดูเวอร์ แต่จริง ๆ แล้วผู้สร้างเขายืนยันว่าเค้าอิงจากเหตุการณ์จริงหลายอย่าง เช่น…
- พระเอกเคยเป็นเด็กฝึกงานที่เหมืองทรายจริง ๆ (แม้ในซีรีส์จะบอกว่าเคยไปทำงานใช้หนี้)
- เคยโดนบริษัทขนส่งหักหลังจริง! (แต่เขาไม่บอกว่าเจ้าไหน)
- เริ่มตั้ง office ที่โรงแรมจริง ๆ (แปลว่าเริ่มจาก 0 จริง ๆ)
- เคยโดนแกล้งเรื่องพัสดุปลอมจริง
- ตัวละครรุ่ยเจี๋ยมีตัวตนจริง!
- และมีฉากกระโดดน้ำละลายพฤติกรรมที่อิงจากเหตุการณ์หลังบริษัทประสบความสำเร็จแล้วจริง ๆ
แล้วอะไรในเรื่องที่ "แต่งขึ้น"?
ไม่ใช่ทุกอย่างจะเป็นเรื่องจริงทั้งหมดนะจ๊ะ มีหลายอย่างที่ถูกปรุงแต่งเพื่อเพิ่มความบันเทิง เช่น…
- ตัวละครนางเอก “เสี่ยวหยู” เป็นตัวละครแต่งขึ้น
- ตัวละคร “เคน” ลูกชายเจ้าสัว ก็แต่งขึ้น ส่วนเจ้าสัว “คณิน” เป็นการรวมลักษณะของคนหลาย ๆ คนเข้าด้วยกัน
- ฉากขับรถแล้วโปรยเงินทิ้ง ก็เวอร์ไปหน่อย เป็นฉากใส่มาให้มันตื่นตาตื่นใจเฉย ๆ
นักแสดงและทีมสร้างดีจนอยากปรบมือให้ทุกฉาก
ซีรีส์เรื่องนี้กำกับโดย ไก่-ณฐพล บุญประกอบ ผู้กำกับสายสารคดีที่หันมาลองกำกับซีรีส์แนวธุรกิจแบบจัดเต็ม บทก็เขียนกันนาน 2 ปี ถ่ายทำอีก 4 ปี ถือว่าใส่ใจทุกรายละเอียดแบบสุดใจ
ทีมนักแสดงก็คือว้าวมาก:
- ไอซ์ซึ ณัฐรัตน์ รับบท “สันติ” แสดงได้ดีมาก อินทุกซีน
- พีช พชร รับบท “เคน” เจ้าชายแสนร้าย
- เจนเย่ เมธิกา รับบท “เสี่ยวหยู” บทนี้คือแจ้งเกิด!
- เอก ธเนศ รับบท “เจ้าสัวคณิน” คือเด่นแบบเจ้าสัวของจริง
- ดร.พลัง โลกศิลป์ รับบท “รุ่ยเจี๋ย” ก็เท่แบบไร้อารมณ์ในแบบที่คาแรกเตอร์ต้องการ
สารที่ซีรีส์พยายามสื่อ
“สงครามส่งด่วน” ไม่ได้แค่เล่าเรื่องธุรกิจเท่านั้น แต่ยังแฝงหลายประเด็นให้คนดูได้คิด เช่น…
- ความเหลื่อมล้ำทางสังคม
- โอกาสที่ไม่เคยเป็นของคนตัวเล็ก
- การหักหลังในโลกธุรกิจ
- ความรัก ความเชื่อใจ และการสูญเสีย
- การสร้างตัวจาก 0 จริง ๆ
ซึ่งทั้งหมดนี้มันจริงมาก! เหมือนการลงทุนในอะไรสักอย่างที่เราไม่รู้ว่าจะรุ่งหรือร่วง เช่นเดียวกับการเล่นในเว็บหวยถูกกฎหมาย ที่อย่างน้อยก็ยังเชื่อถือได้ มีใบรับรอง ไม่ใช่โดนหลอกแล้วหายวับแบบเจ้าสัวในเรื่องนี้แน่นอน
ทำไมคนถึงพูดถึงเยอะขนาดนี้?
เพราะมันไม่ใช่ซีรีส์ดราม่าทั่วไป แต่มันผสมหลายรสชาติลงไปอย่างกลมกล่อม ทั้งดราม่า การเมืองในบริษัท ความรัก ความขัดแย้ง และการเอาตัวรอด แถมยังใส่เรื่องจริง ๆ ที่มีอยู่ในวงการสตาร์ทอัพไทยลงไปอีก คนดูเลยรู้สึกว่า “มันจริง” และ “อิน” แบบสุด ๆ
และอีกจุดที่เซอร์ไพรส์มากคือ มีนักแสดงจีนตัวจริงอย่างปีเตอร์และอลิซ มาเล่นเป็นนักลงทุนด้วย ซึ่งช่วยเพิ่มความรู้สึก “ระดับสากล” ให้ซีรีส์แบบไม่เว่อร์เกินเหตุ
สรุป สปอยหนัง สงครามส่งด่วน
สปอยหนัง“สงครามส่งด่วน” ซีรีส์ไทยที่ทำให้เรารู้ว่าธุรกิจไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่คนธรรมดาจะเข้าไม่ถึง ใครที่มีฝัน มีไฟ และพร้อมลุย เรื่องนี้จะเป็นแรงบันดาลใจชั้นดีให้คุณแน่นอน
ซีรีส์นี้ดูแล้วทั้งลุ้น ทั้งอิน ทั้งอยากเอาใจช่วยสันติตลอดเรื่อง! และมันก็คู่ควรกับคำว่า “ขึ้นอันดับ 1 ใน Netflix ไทย” จริง ๆ
อ้างอิงข้อมูลจาก Netflix / Kapook